วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

18 ที่เที่ยวนครสวรรค์ เมืองสวรรค์แห่งปากน้ำโพ

                 
                                                                    HOMEPAGE
18 ที่เที่ยวนครสวรรค์ เมืองสวรรค์แห่งปากน้ำโพ
นครสวรรค์ เมืองสวรรค์แห่งปากน้ำโพ ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา  เป็นจังหวัดรอยต่อของภาคเหนือและกลาง ที่หากเดินทางไปภาคเหนือ ต้องผ่านจังหวัดนี้ก่อน  หรือเรียกง่ายๆว่า เป็นประตูสู่ภาคเหนือ ซึ่งทำให้หลายคนมองข้ามที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน เพราะส่วนใหญจะใช้เป็นแค่เพียงจังหวัดทางผ่าน ทั้งที่จริงแล้วนครสวรรค์ มีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะวัด วาอาราม ที่มีความงดงามในระดับ Unseen  แบบไม่น่าเชื่อว่า จังหวัดนี้จะมีอะไรแบบนี้ด้วย และด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงกว่า ทำให้เมืองปากน้ำโพ จึงเหมาะที่จะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับใครหลายคนที่ชื่นชอบการเดินทางแบบไม่ต้องใช้เวลามาก  มาดูกันซิว่า หากคิดจะเที่ยวนครสวรรค์ เราจะแวะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง

ที่เที่ยวนครสวรรค์

อำเภอเมือง

วัดคีรีวงศ์
มาถึงนครสวรรค์ ต้องแวะ วัดคีรีวงศ์ เพราะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดว วัด ตั้งอยู่บนยอดเขาในตัวเมืองนครสวรค์ จุดเด่นคือ องค์มหาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์คือพระจุฬามณีเจดีย์ ซึ่งเป็นทองเหลืองอร่าม ไปทั้งเจดีย์ เมื่อขึ้นไปถึงฐานพระเจดีย์ชั้น 4 จะมองเห็นภูมิทัศน์อันสวยงามของเมืองนครสวรรค์ ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ภูเขาน้อยใหญ่ ทอดตัวตระหง่าน อยู่เป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์อัสดง จะเป็นภาพที่งดงามชวนให้หลงใหลในภาพที่ธรรมชาติตกแต่งขึ้น
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก วัดคีรีวงศ์

dew_4684
dew_4680

หอชมเมืองนครสวรรค์
ตั้งอยู่ติดกับวัดคีรีวงศ์ ในเส้นทางเดียวกัน แต่หอชมเมืองจะถึงก่อน หอชมเมืองนครสวรรค์ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่สำหรับชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองนครสวรรค์  ลักษณะเป็นหอสูง ประมาณ 32 เมตร มีทั้งหมด 10 ชั้น สำหรับการขึ้นไปยังชั้นบนสุด มีลิฟต์ให้บริการไปถึงชั้น 9   โดนชั้นบนสุด คือ ชั้นดาดฟ้าสำหรับชมวิวตัวเมืองสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองนครสวรรค์ไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร โดยทิศตะวันออกจะเห็นทิวทัศน์เขากบและบึงบอระเพ็ด ทางทิศใต้จะเห็นอุทยานสวรรค์ ต้นน้ำเจ้าพระยา สะพานเดชาติวงศ์ วัดเขาจอมคีรีนาคพรต ส่วนด้านทิศตะวันตกจะพบความสวยงามของทิวเขาเป็นฉากธรรมชาติที่งดงาม
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก หอชมเมืองนครสวรรค์


อุทยานสวรรค์
อุทยานสวรรค์ ตั้งอยู่ที่ ถนนวงสวรรค์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์  เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่บนพื้นที่ 314 ไร่ ตรงกลางเป็นเกาะมีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่  จุดเด่นที่มองเห็นมาแต่ไกลคือมังกรสวรรค์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง อุทยานสวรรค์ประกอบด้วยหนองน้ำขนาดใหญ่เรียกว่า หนองสมบุญ มีถนนวงเหวน 2 ชั้นล้อมรอบ ตรงกลางเป็นเกาะ ซึ่งมีเนื้อที่ 4 ไร่ มีสวนหย่อม สนามหญ้า น้ำพุ เวทีกลางแจ้ง น้ำตกจำลอง ศาลาและสวนสุขภาพ  อุทยานสวรรค์นี้เป็นสวนสาธารณะที่ได้รับรางวัลสวนสาธารณะระดับดีมากจากกรมอนามัยอีกด้วย
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก อุทยานสวรรค์
 

พาสาน
พาสาน อาคารสัญลักษณ์สุดล้ำแห่งต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองนครสวรรค์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่บริเวณเกาะยม จุดกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจในปากน้ำโพ ตัวแบบของ พาสาน เป็นเส้นสายโค้งมาบรรจบกันแลดูคล้ายการรวมตัวกันของสายน้ำ ในปัจจุบันกำลังเตรียมดำเนินการเพิ่มเติมภายในตัวอาคาร ทั้งในส่วนของการแสดงข้อมูลประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม อีกทั้งจะมีการติดตั้งระบบมัลติมีเดีย แสง สี เสียงที่สวยงาม ทันสมัยภายนอกอาคาร
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก พาสาน


  
อุทยานเทวสถานพระพิฆเนศ
ท อุทยานเทวสถานพระพิฆเนศ   สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือแหล่งท่องเที่ยว  ตั้งอยู่ที่ ตำบลกลางเเดด อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ไม่ไกลจากฟาร์มแกะทหารช่าง ค่ายจิรประวัติ  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมได้ไม่นาน  ภายในเทวสถานพระพิฆเนศ มีการจัดสวนอย่างสวยงาม มีพระพิฆเนศปางประทานพร องค์ใหญ่สีชมพูสดใส มองเห็นเด่นเป็นสง่าแต่ไกล รวมทั้งเทวรูปเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมาย ปัจจุบันยังคงทยอยต่อเติม เพิ่มความสวยงามให้แก่สถานที่แห่งนี้ ด้วยงานปั้นฝีมือประณีตงดงาม ให้นักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาได้เข้ามาเยี่ยมชมและสักการะ
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก อุทยานเทวสถานพระพิฆเนศ 


ฟาร์มแกะทหารช่าง
ฟาร์มแกะทหารช่าง ตั้งอยู่ในค่ายจิรประวัติ  ตัวเมืองนครสวรรค์  เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เกษตรผสมผสาน บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ มีจุดถ่ายภาพสวยหลายโซน ทั้ง ฟาร์มแกะ สะพานกลางทุ่งนา บึงบัว  อุโมงค์พืชผัก ร้านกาแฟ และยังมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดย่อมที่รวมสัตว์ไว้หลากหลาย  รับรองว่าถูกใจคนชอบถ่ายภาพแน่นอน
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก ฟาร์มแกะทหารช่าง


สะพานเดชาติวงศ์
ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ก่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองนครสวรรค์ เป็นสะพานที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย กรมทางหลวงวางแผนสร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานเดชาติวงศ์ ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ก่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองนครสวรรค์กรมทางหลวงวางแผนสร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เป็นประตูสู่ภาคเหนือ เมื่อปี 2485 เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กมีความยาว 404.5 เมตร ทางรถกว้าง 6.50 เมตร ทางเท้าข้างสะพาน 1 เมตร ยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำสองสีที่สวยงามที่สุดอีกจุดหนึ่ง

son03067

วัดศรีอุทุมพร
วัดศรีอุทุมพร หรือ วัดวังเดื่อ หรือ วัดหลวงพ่อจ้อย ตั้งอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 25 กิโลเมตร  เป็นวัดที่นครสวรรค์ให้ความเคารพศรัทธาเพราะเป็นวัดที่หลวงพ่อจ้อย เกจิชื่อดังแห่งเมืองปากน้ำโพเคยเป็นเจ้าอาวาสจนละสังขาร  ท่านเป็นพระนักพัฒนาผู้ได้สมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ”  ปัจจุบันทางวัดได้เก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อจ้อย ไว้ในมณฑป สามารถมาสักการะกราบไหว้ได้ นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่ความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ด้วยงานปูนเปือยผสมเครื่องเบญจรงค์และกระเบื้อง มีความงดงามอ่อนช้อย สีสรรสวยงาม ทั้ง มณฑป อุโบสถลอยฟ้าเสาร้อยต้น ศาลาทรงไทย ป็นต้น
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก วัดศรีอุทุมพร 

วัดเทพนิมิตร
วัดเทพนิมิตทรงธรรม (ถ้ำบ่อยา) ตั้งอยู่ ที่ ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครสวรรค์ จุดเด่นของ วัดเทพนิมิตทรงธรรม  มีถ้ำบ่อยาที่เชื่อกันว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในถ้ำซึ่งมีความงามของหินที่อยู่ในถ้ำและมีความเชื่อของชาวบ้านว่าในถ้ำมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองรักษาถ้ำนี้อยู่  ถ้ำบ่อยาเป็นถ้ำหินปูนที่สวยที่สุดของจังหวัดนครสวรรค์
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก วัดเทพนิมิตร



บึงบอระเพ็ด
ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นถิ่นอาศัยของนกนานาชนิดที่พากันโบยบิน อวดความสวยงามกันเต็มที่โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเมื่อมีนกอพยพเดินทางเข้ามาอาศัยในบริเวณนี้กันอย่างมากมาย กิจกรรมไฮไลท์คือ  ล่องเรือชมความงามแห่งสีสันของดอกบัวหลวง บัวสาย บัวกินสาย ที่พากันอวดดอกเบ่งบานเต็มบึง ในช่วงเช้า ซึ่งดอกบัวจะบานในช่วงเดือนพ.ย. – ธ.ค.  เรียนรู้ชีวิตสัตว์น้ำภายในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ดเฉลิมพระเกียรติ  พักผ่อนหย่อนใจบนหาดทรายเทียมสำหรับเล่นน้ำ มีทั้งบานานาโบ๊ท เจ็ทสกี คอยบริการ หรือใครอยากพักแรม ที่นี่มีบริการเต็นท์ บ้านพักรับรองเรือนไทยสไตล์ล้านนา และบ้านพักสไตล์รีสอร์ท ที่สามารถมองออกไปเห็นรอบบึงบอระเพ็ดได้กว้างไกลสุดสายตา  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด โทร. 66 5627 4525 หรือเว็บไซต์ www.buengboraphet.com
ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-ศาลเจ้าแม่ทับทิม
ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ศูนย์รวมศรัทธาไทย-จีนที่เหนียวแน่นซึ่งประชาชนทั่วไปมักเรียกศาลนี้ว่า ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์- เจ้าแม่ทับทิม หรือศาลเจ้าพ่อแควใหญ่ โดยตัวศาลเจ้านั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามตลาดปากน้ำโพ  ศาลเจ้าแห่งนี้นั้น ยังคงโครงสร้างเป็นปูน ตอนกลางเป็นอาคารไม้ดั้งเดิม ภายในนอกจากแท่นบูชาเทพยาฟ้าดินแล้ว ยังมีที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าบ๊นเถ่ากง ด้านขวาเป็นเทพเจ้ากวนอู ด้านซ้ายประดิษฐานเจ้าแม่ทับทิม ที่มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอพรบารมีจากเจ้าแม่ให้คุ้มครอง และขอให้มีโชคลาภตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเทศกาลตรุษจีนจะมีการอัญเชิญองค์เทพเจ้าแห่รอบตลาดปากน้ำโพ เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาซึ่งมีการจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ทุกๆ ปี นอกจากนี้ยังมีการจัดพิธีลุยไฟ การแสดงปาฏิหาริย์จากเทพเจ้าในร่างม้าทรงให้นักท่องเที่ยวชมกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ปากน้ำโพ
พิพิธภัณฑ์ย้อนรอยอดีตเมืองปากน้ำโพ  ตั้งอยู่บนชั้น 5 ห้างแฟรี่แลนด์นครสวรรค์ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน จัดสร้างขึ้นเพื่อปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้ลูกหลานชาวปากน้ำโพ ได้รับรู้ประวัติความเป็นมาของบ้านเกิดตัวเอง  ภายในพิพิธภัณฑ์ แบ่งพื้นที่จัดแสดงทั้งหมดออกเป็น 5 โซน ได้แก่  โซน 1 ปากน้ำโพมาจากไหน  โซน 2 การคมนาคม โซน 3 จำลองเศรษฐกิจร้านค้าที่คู่เมืองปากน้ำโพ โซน 4 ป้ายเก่าเล่าเรื่อง และโซนที่ 5 ศิลปะเมืองจริง 3 D Art
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าแฟรี่แลนด์นครสวรรค์ เลขที่ 162/10 ถนนสวรรค์วิถี ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ 60000
โทรศัพท์ : 056-223 051
วันและเวลาทำการ  จันทร์ – วันศุกร์ เวลา 10.00 – 18.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 19.00 น.
ไม่เสียค่าเช้าชม

 อำเภอท่าตะโก

วัดป่าสิริวัฒนา
เป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยสร้างวัดเป็นรูปเรือหลวงบนยอดเขา ซึ่งสื่อความหมายถึง พาหนะที่จะช่วยให้พ้นห้วงกิเลส มีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม คือ  เจดีย์ศรีพุทธคยาที่ตั้งโดดเด่นบนยอดเขา จำลองแบบสถาปัตยกรรมและงานพุทธศิลป์มาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย
ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม คลิ๊ก วัดป่าสิริวัฒนา

 อำเภอตากฟ้า

ทุ่งทานตะวันตากฟ้า
จุดชมทุ่งทานตะวัน ที่ใหญ่ที่สุดของนครสวรรค์  ตั้งอยู่ในอำเภอตากฟ้า ซึ่งในเส้นนี้มีให้ชมหลายจุด  ซึ่งแต่ละที่จะบานไม่พร้อมกัน  โดยจะเริ่มบานในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมกราคม สำหรับจุดหลักๆ ที่สามารถชมได้แบบสวยงาม  คือ เป๋าตุงฟาร์ม บ้านพุนกยูง บ้านน้ำวิ่ง   ซึ่งมีให้ชมตลาดสองข้างทาง มองเห็นวิวของภูเขาอันสวยงามเป็นฉากหลัง

 

ทุ่งปอเทืองนครสวรรค์
ตั้งอยู่ในอำเภอตากฟ้าเช่นกัน ซึ่งมีให้ชมหลายไร่ แต่ไร่ที่เป็นที่นิยม คือ ทุ่งปอเทืองไร่ธรรมชัย  ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำวิ่ง ซึ่งจะมีให้ชมในช่วงเดือนธันวาคม – กลางมกราคม  เป็นทุ่งปอเทืองที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีวิวทิวทัศน์ที่เป็นธรรมชาติท่ามกลางวิวภูเขาที่สวยงาม

 อำเภอบรรพตพิสัย  

เขาหน่อ เขาแก้ว
ตั้งอยู่ใน อำเภอบรรพตพิสัย  เป็ยภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาที่มองเห็นมาแต่ไกลทุกครั้งเวลาสัญจรผ่านไปมาบนถนนพหลโยธินช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัดนครสวรรค์กับกำแพงเพชร  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ของนครสวรรค์ ขาหน่อแห่งนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ เขานางพันธุรัตซึ่งเป็นเขาลูกเล็กที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาผ่านบันได 60 ขั้น  ซึ่งบริเวณลานชมวิวจากเขานางพันธุรัตแห่งนี้ จะพบถ้ำขนาดเล็ก ด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่ และเขาพระพุทธบาทหรือเขาลูกใหญ่ ที่ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและเจดีย์เก่าแก่อายุประมาณ 400 ปีซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลาย และมีระฆังที่นำไปแขวนใหม่ประมาณ 20 ใบ การเดินขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อไปนมัสการรอยพระพุทธบาทจำลองต้องเดินไปตามบันได 700 ขั้น และต้องปีนบันไดลิงอีก 5 ช่วง และด้วยเส้นทางอันท้าทายเช่นนี้เอง ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันชิงตำแหน่งผู้พิชิตยอดเขาหน่อเป็นคนแรก สำหรับเขาแก้วที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับเขาหน่อที่ปัจจุบันมีถนนคั่นกลางอย่างชัดเจนนั้น มีถ้ำหลายถ้ำอันเป็นที่อยู่ของฝูงค้างคาว โดยเฉพาะในเวลาพลบค่ำ ฝูงค้างคาวจะพากันบินออกหากิน จากปากถ้ำนับล้านตัว สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก
เปิดให้บริการทุกเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ โทร. 056 22 1602, 056 5622 1034, 056 22 1656 ต่อ 114

อำเภอตาคลี

เมืองโบราณจันเสน
ที่นี่เป็นเมืองโบราณที่มีการสันนิษฐานว่าอยู่ในสมัยทวารวดี โดยเป็นเมืองโบราณที่มีคูเมืองเป็นเนินดินโดยรอบ รูปสี่เหลี่ยม มุมมนจนเกือบเป็นวงกลมและล้อมรอบคูเมืองซึ่งกว้างประมาณ 20 เมตรเอาไว้ โดยคูเมืองนั้น มีความยาวประมาณ 800 เมตร กว้าง 700 เมตร และเนื่องจากบริเวณนี้มีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่รอบนอก ชาวบ้านจึงนิยมเรียกกันว่า “โคกจันเสน” ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุมากมาย ทั้งประเภทดินเผา ได้แก่ พระพิมพ์ ตุ๊กตาดินเผา ตะเกียง ประเภทที่ทำด้วยหิน ได้แก่ ฐานบัว ธรรมจักร ขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะ ตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก ใบหอกสำริดปัจจุบันโบราณวัตถุเหล่านี้ “พิพิธภัณฑ์จันเสน”  ตั้งอยู่ในพระมหาธาตุเจดีย์จันเสน ภายในบริเวณวัดจันเสนนั่นเอง  พระมหาธาตุเจดีย์จันเสนนั้นเกิดจากดำริของพระครูนิสัยจริยคุณ หรือ “หลวงพ่อโอด” ที่ปรารถนาสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางชุมชน โดยในการออกแบบพัฒนาจากลักษณะสถูปสมัยทวารวดี มีการใช้รายละเอียดของลวดลายทางสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดี และยังมีคำจารึกที่ฐานพระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันสน ให้ผู้สนใจได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วย
ที่อยู่ : ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
เบอร์โทร : 05633 9115-6
วันเปิดทำการ : ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 17.00

ศาลเจ้าพ่อนาคราช
ตั้งอยู่ที่ อำเภอตาคลี เป็นศาลเจ้าแบบจีน ทเก่าแก่ที่อยู่คู่ชุมชนจันเสนมาร่วมสี่ชั่วอายุคนแล้ว สร้างตามความเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวมีเจ้าพ่อนาคราช คอยปกปักษ์รักษาทรัพย์สมบัติใต้พื้นดินทั้งหมด  ต่อมาด้วยพลังศรัทธาของชาวบ้าน โดยแกนนำคือ อาจารย์แห้ว และเงินเริ่มต้นเพียง 3,000 บาท ได้บูรณะศาลใหม่ให้ใหญ่ขึ้นจนสำเร็จภายใน 8 เดือน มูลค่าการสร้างร่วม 40 ล้านบาท เกิดเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ภายในประดิษฐานองค์เทพ เทวรูป พระในปางต่าง ๆ มากมาย เช่น พระยูไล เจ้าแม่กวนอิมทพเจ้ากวนอู เทพเจ้านาจา เทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี๊ยะ พระ 18 อรหันต์ เทพเจ้าตี่จั่งอ๊วง เป็นต้น   ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใครได้ไปกราบไหว้จะทำให้มีความสุขทางด้านจิดใจ

ต้นไม้ประจำ ร.10

                                                                 
                                                                    HOMEPAGE

หลายคนอาจยังไม่รู้จัก "ต้นรวงผึ้งต้นไม้สำคัญ Sanook! Home จึงรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับต้นไม้ที่ออกดอกเหลืองงดงามนี้มาให้ได้รู้จักกัน ต้นรวงผึ้งเป็นต้นไม้ประจำพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องด้วยดอกรวงผึ้งมีสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และผลิดอกช่วงวันพระราชสมภพพอดีเมื่อพระองค์เสด็จฯ กอปรพระราชกรณียกิจตามสถานที่ต่างๆ ก็จะทรงปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานไว้เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์ท่านและเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราษฎร

ลักษณะสำคัญต้นรวงผึ้ง

ต้นรวงผึ้ง หรือจะเรียกตามชื่อพื้นเมืองว่า ต้นน้ำผึ้ง ต้นสายน้ำผึ้ง ก็ได้ ต้นรวงผึ้งเป็นไม้หอมที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบมากในป่าทางภาคเหนือ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,100 เมตร เป็นพันธุ์ไม้ประเภทเดียวกับปอ กระเจาและตะขบฝรั่ง

ลักษณะเด่นของต้นรวงผึ้งคือ

ดอกสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน มีช่อดอกดกที่เกิดตามซอกใบเป็นช่อสั้น โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น ๕ แฉกคล้ายรูปดาว ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ซึ่งส่วนที่มองเห็นเป็นสีเหลืองเหมือนดอกนั้นคือเกสรตัวผู้ที่รวมกันเป็นกระจุก ลำต้นแตกกิ่งต่ำ กิ่งค่อนข้างเล็กเรือนยอดเป็นพุ่มมน ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปแผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน ผิวใบด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีน้ำตาลอมนวล สามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและเพาะเมล็ด

ดอกรวงผึ้งจะเบ่งบานในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ผลิดอกได้นาน ๗-๑๐วัน เมื่อดอกสีเหลืองบานพร้อมกันทั้งต้น จะดูงดงามอร่ามตา และส่งกลิ่นหอมชื่นใจตลอดทั้งวัน

การขยายพันธุ์


Advertisement
การตอน เป็นวิธีการที่เหมาะสม ที่สวนไม้หอมฯ ได้ทำการทดลองแล้วมีความจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนในการเร่งรากจึงจะได้ผลดีในการขยายพันธุ์

ข้อดีของพันธุ์ไม้ต้นรวงผึ้ง

  1. เป็นพันธุ์ไม้ที่ออกดอกครั้งละมากๆ (เต็มต้น) เมื่อดินแห้งตามธรรมชาติ
  2. เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีช่วงการปลูกกว้าง สามารถขึ้นได้ดีทั้งที่แห้งแล้งและที่ค่อนข้างชื้น
  3. เป็นพันธุ์ไม้ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ไม่ต้องการการดูแลมาก ใบไม่ค่อยร่วง
  4. เป็นพันธุ์ไม้ที่มีระบบรากดีมาก ไม่มีการหักโค่นของต้นขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นกิ่งที่ได้จากการตอน

ข้อแนะนำ

  1. เนื่องจากมีการออกดอกครั้งละมากๆ และมีผึ้งตอมเป็นจำนวนมาก ผึ้งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ปลูก
  2. เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ออกดอกในระยะสั้นเพียง 7 - 10 วัน/ครั้ง/ปี เท่านั้น
  3. ในพื้นที่ที่มีน้ำมาก รวงผึ้งจะไม่ออกดอกพร้อมกันทั้งต้น
การเลือกต้นรวงผึ้งที่ถูกต้อง ควรเป็นกิ่งกระโดงที่ตรง จะทำให้การเจริญเติบโตดี ทรงต้นสวยงามกว่ากิ่งที่ตอนมาจากส่วนอื่นๆ ของต้น

ข้อมูลอื่นๆ ของต้นรวงผึ้ง

  1. เป็นพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มออกดอกให้ชม
  2. เป็นพันธุ์ไม้หอมที่เริ่มลดน้อยลงเนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ที่ออกดอกช้า ช่วงการออกดอกไม่นาน และต้องใช้พื้นที่ในการปลูกมากๆ ไม่ค่อยตรงกับนิสัยคนไทยมากนัก หากไม่ชอบรวงผึ้งจริงๆ ก็ไม่ควรปลูก จะได้ไม่เสียเวลาเปล่า 
อ้างอิง : https://www.sanook.com/home/11809/

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ประเภทและชนิดของเมฆ

                         HOMEPAGE         

  ประเภทและชนิดของเมฆ


 เมฆนั้นแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ แบบเป็นชั้น (layered) ในแนวนอน และ แบบลอยตัวสูงขึ้น (convective) ในแนวตั้ง โดยจะมีชื่อเรียกว่า สเตรตัส (stratus ซึ่งหมายถึงลักษณะเป็นชั้น) และ คิวมูลัส (cumulus ซึ่งหมายถึงทับถมกันเป็นกอง) ตามลำดับ นอกจากนี้แล้วยังมีคำที่ใช้ในการบอกลักษณะของเมฆอีกด้วย
              - สเตรตัส (stratus) หมายถึง ลักษณะเป็นชั้น
              - คิวมูลัส (cumulus) หมายถึง ลักษณะเป็นกองสุม
            - เซอร์รัส (cirrus) หมายถึง ลักษณะเป็นลอนผม
            - นิมบัส (nimbus) หมายถึง ฝน
        แบ่งตามระดับความสูง
                เมฆยังอาจแบ่งเป็น กลุ่ม ตามระดับความสูงของเมฆ โดยระดับความสูงของเมฆนี้จะวัดจากฐานของก้อนเมฆ ไม่ได้วัดจากยอด
         ซึ่งการแบ่งตามระดับความสูงจะใช้ในการตรวจและแบ่งชนิดของเมฆทางอุตุนิยมวิทยา สำหรับเป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อผลทางการวิเคราะห์สภาพลมฟ้าอากาศในการพยากรณ์ โดยใช้ความสูงของฐานเมฆเป็นหลักในการแบ่งชนิด ซึ่งลักษณะของเมฆแต่ละชนิดนั้นสามารถที่จะบอกให้ทราบถึงแนวโน้มลักษณะของสภาวะอากาศที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ เช่น ถ้าในท้องฟ้ามีเมฆก่อตัวในทางแนวตั้งแสดงว่าอากาศกำลังลอยตัวขึ้น หมายถึง สภาวะของอากาศก่อนที่จะเกิดลมพายุ 
             หรือถ้าเมฆในท้องฟ้าแผ่ตามแนวนอนเป็นชั้นๆ หมายถึง สภาวะอากาศที่สงบและจะมีกระแสลมทางแนวตั้งเล็กน้อย หรือถ้าเมฆในท้องฟ้าก่อตัวทางแนวตั้งสูงใหญ่ จะหมายถึงลักษณะของเมฆพายุฟ้าคะนอง ที่เรียกว่า เมฆคิวมูโลนิมบัส ฝนจะตกหนักและมีฟ้าแลบ ฟ้าร้อง บางครั้งอาจมีฟ้าผ่าลงมายังพื้นดินด้วย ซึ่งเมฆพายุฟ้าคะนองนี้เป็นอันตรายต่อเครื่องบินขนาดเล็กเป็นอันมาก
        เมฆระดับสูง (High Clouds) 
             ก่อตัวที่ความสูงมากกว่า 16,500 ฟุต (5,000 เมตร) ในบริเวณที่อุณหภูมิต่ำในชั้นบรรยากาศโทรโพสเฟียร์ ที่ความสูงระดับนี้น้ำส่วนใหญ่นั้นจะแข็งตัว ดังนั้นเมฆจะประกอบด้วยผลึกน้ำแข็ง เมฆในชั้นนี้ส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ และ มักจะค่อนข้างโปร่งใส  
            - เมฆเซอรัส (Cirrus) มีฐานสูงเฉลี่ย 10,000 เมตร มีลักษณะเป็นฝอยปุยสีขาวเหมือนขนนกบางๆ หรือเป็นทางยาว และอาจมีวงแสง (Halo) ด้วย

เมฆเซอโรคิวมูลัส (Cirrocumulus) มีฐานสูงเฉลี่ย 7,000 เมตร มีลักษณะเป็นเกล็ดบางๆ สีขาว หรือเป็นละอองคลื่นเล็กๆ อยู่ติดกัน บางตอนอาจแยกจากกันแต่จะอยู่เรียงรายกันอย่างมีระเบียบ โปร่งแสง อาจมองเห็นดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ได้ 


        เมฆเซอโรสเตรตัส (Cirrostratus) มีฐานสูงเฉลี่ย 8,500 เมตร มีลักษณะเป็นแผ่นเยื่อบางๆ โปร่งแสงเหมือนม่านติดต่อกันเป็นแผ่นในระดับสูง มีสีขาวหรือน้ำเงินจางปกคลุมเต็มท้องฟ้าหรือเพียงบางส่วน เป็นเมฆที่ทำให้เกิดวงแสงสีขาวหรือมีวงแสง (Halo) รอบดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ได้

เมฆระดับกลาง (Medium Clouds)
      ก่อตัวที่ความสูงระหว่าง 6,500 และ 16,500 ฟุต (ระหว่าง 2,000 และ 5,000 เมตร) เมฆจะประกอบด้วยละอองน้ำ และ ละอองน้ำเย็นยิ่งยวด
     - เมฆอัลโตคิวมูลัส (Altocumulus) มีลักษณะอยู่เป็นกลุ่มๆ คล้ายฝูงแกะ มีสีขาว บางครั้งสีเทา มีการจัดตัวเป็นแถวๆ หรือเป็นคลื่น เป็นชั้นๆ มีเงาเมฆ มีลักษณะเป็นเกล็ดเป็นก้อนม้วนตัว (roll) อาจมี 2 ชั้น หรือมากกว่านั้น อาจมีแสงทรงกลด (Corona)

        - เมฆอัลโตสเตรตัส (Altostratus) มีลักษณะเป็นแผ่นหนา บางสม่ำเสมอในชั้นกลางของบรรยากาศ มองดูเรียบเป็นปุยหรือฝอยละเอียดแผ่ออกเป็นพืด เป็นลูกคลื่น ปกคลุมเต็มท้องฟ้า มีสีเทาหรือน้ำเงินอ่อน และอาจมีบางส่วนที่บางจนแสงอาทิตย์จะส่องผ่านลงมายังพื้นดินได้ อาจมีแสงทรงกลด (Corona)

เมฆระดับต่ำ (Low Clouds)
             ก่อตัวที่ความสูงต่ำกว่า 6,500 ฟุต (2,000 เมตร) และ รวมถึงสเตรตัส (Stratus) เมฆสเตรตัสที่ลอยตัวอยู่ระดับพื้นดินเรียก หมอก
           - เมฆสเตรตัส (Stratus) มีลักษณะเป็นแผ่นหนาๆ สม่ำเสมอในชั้นต่ำของบรรยากาศ ใกล้ผิวโลกเหมือนหมอก มีสีเทา มองไม่เห็นดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ ไม่ทำให้เกิดวงแสง (Halo) เว้นแต่เมื่อมีอุณหภูมิต่ำมากก็อาจเกิดได้


 - เมฆสเตรโตคิวมูลัส (Stratocumulus) มีสีเทา ลักษณะอ่อนนุ่ม เป็นก้อนกลมเรียงติดๆ กัน ทั้งทางแนวตั้งและทางแนวนอนทำให้มองเห็นเป็นลอนเชื่อมติดต่อกันไป 

   - เมฆนิมโบสเตรตัส (Nimbostratus) มีลักษณะเป็นแผ่นหนาสีเทาดำ เป็นแนวยาวติดต่อกันแผ่กว้างออกไป ไม่เป็นรูปร่าง เป็นเมฆที่ทำให้เกิดฝนตกจึงเรียกกันว่า เมฆฝน เมฆชนิดนี้จะไม่มีฟ้าแลบฟ้าร้อง เกิดเฉพาะในเขตอบอุ่นเท่านั้น

เมฆแนวตั้ง (Vertical Clouds)
             เป็นเมฆที่มีแนวก่อตัวในแนวตั้ง ซึ่งทำให้เมฆมีความสูงจากฐาน โดยความสูงของฐานเมฆเฉลี่ย 1,600 ฟุต หรือ 500 เมตร ความสูงของยอดเมฆเฉลี่ยถึงระดับสูงของเมฆเซอรัส
    - เมฆคิวมูลัส (Cumulus) ลักษณะเป็นเมฆก้อนหนามียอดมนกลมคล้ายกะหล่ำดอก เห็นขอบนอกได้ชัดเจน ส่วนฐานมีสีค่อนข้างดำ ก่อตัวในทางตั้งกระจัดกระจายเหมือนสำลี ถ้าเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ หรือลอยอยู่โดดเดี่ยวแสดงถึงสภาวะอากาศดี ถ้ามีขนาดก้อนเมฆใหญ่ก็อาจมีฝนตกภายใต้ก้อนเมฆ ลักษณะเป็นฝนเฉพาะแห่ง
    - เมฆคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus) ลักษณะเป็นเมฆก้อนใหญ่รูปร่างคล้ายภูเขาใหญ่ มียอดเมฆแผ่ออกเป็นรูปร่างคล้ายทั่งที่ใช้ในการตีเหล็ก (anvil) ฐานเมฆต่ำมีสีดำมืด เป็นเมฆหนา มืดทึบ มีฟ้าแลบ ฟ้าร้อง อาจอยู่กระจัดกระจายหรือรวมกันอยู่ มักมีฝนตกลงมา เรียกเมฆชนิดนี้ว่า เมฆฟ้าคะนอง

อ้างอิง : https://sites.google.com/site/webkroowitthayasat/mekh/prapheth-laea-chnid-khxng-mekh